หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ
ติวสอบครูผู้ช่วย

เตรียมสอบผู้บริหาร

เตรียมสอบผู้บริหาร
เตรียมสอบผู้บริหาร

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การดำเนินการทางวินัย กับการลาออกจากราชการ จะทำให้หลุดพ้นจากความผิดหรือไม่

การดำเนินการทางวินัย กับการลาออกจากราชการ จะทำให้หลุดพ้นจากความผิดหรือไม่

สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน พบกันเช่นเคย วันนี้จะนำเสนอกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ต่อมาขอลาออกจากราชการแล้วจะมีผลให้หลุดพ้นจากความผิดหรือไม่ โดยมีตัวอย่างข้อเท็จจริงดังนี้
นายแดง ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ถูกผู้ปกครองนักเรียนร้องเรียนกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนางสาวขาวซึ่งเป็นศิษย์ในโรงเรียนที่ตนสอนอยู่ และเรื่องอยู่ระหว่างที่ผู้บังคับบัญชาดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลเป็นความผิดวินัยหรือไม่ นายแดงรีบลาออกจากราชการโดยคาดหวังว่าจะทำให้ตนหลุดพ้นจากความผิดได้
กรณีดังกล่าวนี้ตามหลักการดำเนินการทางวินัยผู้บังคับบัญชาจะต้องดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้นเสียก่อนว่า กรณีมีมูลอันควรกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยหรือไม่ เมื่อสืบสวนแล้วเห็นว่า กรณีมีมูลอันเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแก่นายแดงได้ ต่อเมื่อนายแดงยังมีสถานภาพเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอยู่ กล่าวคือ จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงก่อนที่นายแดงลาออกจากราชการหรือเกษียณอายุราชการ เมื่อหลักการเป็นดังนี้นายแดงจึงคิดว่าตนหลุดพ้นจากความผิดเป็นแน่ แต่กรณีหาได้เป็นไปตามที่นายแดงคิดไม่เพราะกฎหมายมีหลักย่อมต้องมีข้อยกเว้น ซึ่งกรณีนี้มีข้อยกเว้นให้สามารถดำเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ออกจากราชการไปแล้วได้ตามมาตรา 102 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 กล่าวคือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำหรือละเว้นกระทำการใดที่พึงเห็นได้ว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และเป็นการกล่าวหาเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาของผู้นั้นหรือต่อผู้มีหน้าที่สืบสวนสอบสวนหรือตรวจสอบตามกฎหมายหรือระเบียบของทางราชการและการกล่าวหาดังกล่าวจะต้องดำเนินการก่อนที่ข้าราชการผู้นั้นพ้นจากราชการ แม้ภายหลังผู้นั้นจะออกจากราชการไปแล้ว เว้นแต่ออกจากราชการเพราะตาย ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 มีอำนาจดำเนินการทางวินัยตามที่บัญญัติไว้ต่อไปได้เสมือนว่านายแดงยังมิได้ออกจากราชการ
ดังนั้น นายแดงจึงต้องถูกผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป ซึ่งหากผลการสอบสวนในที่สุดพฤติการณ์ของนายแดงเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งจะต้องถูกลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ ผู้บังคับบัญชาสามารถสั่งลงโทษนายแดงได้ เว้นแต่กรณีสอบสวนแล้วเป็นความผิดวินัยที่จะต้องลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือน กฎหมายกำหนดให้สั่งงดโทษ สรุปแล้วกรณีดังกล่าวการที่นายแดงขอลาออกจากราชการไม่ทำให้นายแดงหลุดพ้นความผิดที่ตนก่อไว้ จึงเป็นอุทาหรณ์ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาวินัยที่บัญญัติเป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติไว้ตามกฎหมายโดยเคร่งครัดอยู่เสมอ จึงจะทำให้ปลอดภัยจากการถูกดำเนินการทางวินัยอย่างแน่แท้ แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้า
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กฎ/ระเบียบ/เรื่องใหม่ จาก สพร.

ประกาศ / เรื่องใหม่ จาก สพป.และ สพม.ทั่วประเทศ