หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ
ติวสอบครูผู้ช่วย

เตรียมสอบผู้บริหาร

เตรียมสอบผู้บริหาร
เตรียมสอบผู้บริหาร

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

วินัยข้าราชการครูเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

วินัยข้าราชการครูเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 นี้ ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของท่านทั้งหลาย เนื่องจากเป็นวันเลือกตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเป็นองค์คณะบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษานั้นๆ จะเป็น ผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อเลือกผู้สมัครเลือกตั้ง เข้ามาเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งประกอบด้วยอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู อนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา และอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษา ประเภทละ 1 คน
เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนใจให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน 169 เขตพื้นที่การศึกษา ที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 ว่า การเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มิใช่เป็นเพียงสิทธิที่จะไปลงคะแนนเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมาย ตามมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีหน้าที่วางรากฐานให้เกิดระบอบการปกครองเช่นว่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญต่อทุกคนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ดิฉันขอนำบทบัญญัติเกี่ยวกับวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการปฏิบัติตนในการเลือกตั้งมาบอกกล่าวกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กล่าวคือ ตามมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน กำหนดไว้ว่า "ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ และในการปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน โดยต้องไม่อาศัยอำนาจและหน้าที่ราชการของตนแสดงการฝักใฝ่ ส่งเสริม เกื้อกูล สนับสนุนบุคคล กลุ่มบุคคล หรือพรรคการเมืองใด
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการทุจริตโดยการซื้อสิทธิหรือขายเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือการเลือกตั้งอื่นที่มีลักษณะเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งจะต้องไม่ให้การส่งเสริมสนับสนุน หรือชักจูงให้ผู้อื่นกระทำการในลักษณะเดียวกัน การดำเนินการที่ฝ่าฝืนหลักการดังกล่าวนี้ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง" ส่วนท่านที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีหน้าที่ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัย และไม่อาศัยอำนาจหน้าที่ราชการของตน กระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย
ที่ดิฉันได้นำบทกฎหมาย มาบอกกล่าวเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในวันนี้ ก็เพื่อเตือนสติทุกท่าน ให้พึงระวังและอย่าได้กระทำการใดๆ ที่จะนำมาซึ่งการกระทำผิดวินัยดังกล่าว และในฐานะที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถือเป็นปูชนียบุคคลที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้เรียนและสังคม ก็ต้องแสดงพลังประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ เพื่อให้เป็นการเลือกตั้งที่ใสสะอาดและได้ผู้แทนที่ดี มีความรู้คู่คุณธรรม มาบริหารงานบุคคลอันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราชการต่อไป แล้วพบกันสัปดาห์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com

ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

ความเคลื่อนไหวของ ก.ค.ศ.

สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน พบกันอีกเช่นเคย สำหรับสัปดาห์นี้ดิฉันมีความเคลื่อนไหวของสำนักงาน ก.ค.ศ. ในช่วงปลายปีงบประมาณ พ.ศ.2557 มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน กล่าวคือในระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน 2557 นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ยังคงทำงานหนักเพื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน โดยกำหนดให้มีการประชุมสัมมนาประเด็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายประการ ดังนี้
1.กำหนดให้มีการจัดประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้งในส่วนราชการ รวม 4 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่
ครั้งที่ 1 ภาคเหนือ วันที่ 17-19 สิงหาคม 2557 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จ.เชียงใหม่
ครั้งที่ 2 ภาคใต้ วันที่ 24-26 สิงหาคม 2557 ณ โรงแรมไดมอนด์ จ.สุราษฎร์ธานี
ครั้งที่ 3 ภาคกลาง วันที่ 14-16 กันยายน 2557 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร
ครั้งที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 28-30 กันยายน 2557 ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะเป็นการรับฟังข้อคิดเห็น ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนวิพากษ์การปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
2.ก.ค.ศ.กำหนดให้มีการจัดการเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่ครบวาระ จำนวน 169 เขต ในวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2557 เนื่องจาก สพฐ. ได้แจ้งว่า ในวันดังกล่าวมีการอบรมทางไกลแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ จึงเลื่อนกำหนดการเลือกตั้งออกไปเป็นวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 และขอเชิญชวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ไปใช้สิทธิโดยพร้อมเพรียงกันตามจุดเลือกตั้งที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนด
3.สำนักงาน ก.ค.ศ.จะจัดประชุมสัมมนาวิชาการวิพากษ์ประเด็นการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในวันที่ 1 กันยายน 2557 เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิในประเด็นต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีงานสำคัญๆ อีกหลายงานที่สำนักงาน ก.ค.ศ.เร่งดำเนินการในช่วงเวลา 2 เดือนนี้ เช่น การจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินเขตพื้นที่การศึกษาดีเด่น การจัดทำระบบทะเบียนประวัติและระบบเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ การจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนวิทยฐานะแนวใหม่ตามบันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ฯลฯ ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.จะได้เร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

เมื่อครูถูกลงโทษทางวินัย ต้องอุทธรณ์คำสั่งองค์กรใด

เมื่อครูถูกลงโทษทางวินัย ต้องอุทธรณ์คำสั่งองค์กรใด

สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน พบกันเช่นเคยนะคะ สำหรับวันนี้จะนำเรื่องการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยจะต้องอุทธรณ์ต่อองค์กรใดมาบอกเล่าให้ฟัง ซึ่งก่อนจะมีการอุทธรณ์ ท่านต้องถูกผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยและถูกลงโทษแล้ว หากเป็นวินัยไม่ร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาของท่านมีอำนาจดำเนินการ แต่หากเป็นกรณีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 จึงจะมีอำนาจดำเนินการทางวินัยแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และการสั่งลงโทษวินัยอย่างร้ายแรงต้องสั่งตามมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี
การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง (โทษปลดออกหรือโทษไล่ออก) นั้น จะต้องอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ตามมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ท่านได้รับแจ้งคำสั่งลงโทษ โดยต้องทำเป็นหนังสือถึงประธาน ก.ค.ศ. หรือเลขาธิการ ก.ค.ศ. โต้แย้งว่าการลงโทษท่านไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม แสดงข้อเท็จจริงและเหตุผลให้เห็นว่าท่านมิได้กระทำผิดประการใด หรือความผิดของท่านไม่ถึงขั้นร้ายแรงที่จะต้องปลดหรือไล่ท่านออกจากราชการ พร้อมด้วยพยานหลักฐาน (ถ้ามี)
ส่วนโทษวินัยไม่ร้ายแรง (โทษภาคทัณฑ์ โทษตัดเงินเดือน หรือโทษลดขั้นเงินเดือน) จะต้องอุทธรณ์ต่อองค์กรใดนั้น ท่านต้องดูว่าโทษนั้นๆ ถ้าสั่งโดยอำนาจของผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลงมาจะต้องอุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษานั้น แต่ถ้าผู้สั่งลงโทษคือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือผู้บังคับบัญชาคนใดก็ตามที่สั่งลงโทษตามมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ต้องอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ซึ่งการอุทธรณ์กรณีโทษวินัยไม่ร้ายแรงก็เป็นการอุทธรณ์ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน คือต้องอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ท่านได้รับแจ้งคำสั่งลงโทษ โดยต้องทำเป็นหนังสือถึงประธาน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประธาน ก.ค.ศ. หรือเลขาธิการ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี
สำหรับการส่งหนังสืออุทธรณ์ของท่าน อาจส่งโดยตรงที่สำนักงาน ก.ค.ศ. หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้นๆ หรือจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ (มีใบตอบรับทางไปรษณีย์) ก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินทองค่าพาหนะเดินทางมาเพื่อยื่นหนังสืออุทธรณ์ และควรยื่นเสียแต่เนิ่นๆ ก่อนครบกำหนด 30 วัน (ไม่ใช่หนึ่งเดือนนะคะ) และไม่ควรยื่นวันสุดท้าย เพราะหากมีอะไรผิดพลาดก็จะแก้ไขไม่ทันค่ะ โดยถือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ประทับตราลงรับหนังสือของท่านเป็นวันยื่นหนังสืออุทธรณ์ (มีข้อสังเกตสำหรับท่านที่ถูกลงโทษ ในคำสั่งลงโทษตอนท้ายจะบอกให้ท่านทราบว่าจะต้องอุทธรณ์ต่อองค์กรใดภายใน 30 วัน ส่วนการทำหนังสืออุทธรณ์ ท่านเป็นผู้รู้ข้อเท็จจริงดีที่สุดท่านทำเองจะดีกว่า หากสุดวิสัยไม่อาจทำเองได้จะปรึกษาผู้รู้ให้ช่วยเหลือก็ได้ แต่ไม่ว่าจะอุทธรณ์กรณีใดก็ตาม ท่านต้องอย่าลืมลงลายมือชื่อของท่านในหนังสืออุทธรณ์ด้วยตนเอง)
อนึ่ง เมื่อยื่นหนังสืออุทธรณ์ถูกต้องภายใน 30 วันแล้ว ก่อนการพิจารณาอุทธรณ์แล้วเสร็จ ท่านสามารถยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติมได้ หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ แล้วพบกันใหม่ในวันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

พระราชบัญญัติล้างมลทินฯกับผลทางกฎหมายที่ควรรู้

พระราชบัญญัติล้างมลทินฯกับผลทางกฎหมายที่ควรรู้

สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน สถานี ก.ค.ศ. จันทร์นี้ขอเสนอกรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งถูกดำเนินการทางวินัยและต่อมาได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 ซึ่งมีผลทำให้ไม่อาจดำเนินการเพิ่มโทษหรือดำเนินการทางวินัยในมูลกรณีเดียวกันได้อีกต่อไป หากภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลในกรณีเดียวกันว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีดังกล่าวนี้มีปัญหาว่าผู้บังคับบัญชาของข้าราชการครูรายนี้จะต้องดำเนินการทางวินัยต่อไปหรือไม่อย่างไร โดยมีตัวอย่าง ข้อเท็จจริงดังนี้
เมื่อปี 2545 นาย ก. ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกดำเนินการทางวินัย กรณีทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ผลการดำเนินการทางวินัยท้ายที่สุดผู้บังคับบัญชาสั่งงดโทษ เรื่องทางวินัยเป็นที่ยุติตั้งแต่ปี 2546 ต่อมามีการประกาศใช้พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 โดยผลของกฎหมายฉบับนี้ ทำให้ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. ไม่อาจดำเนินการเพิ่มโทษหรือดำเนินการทางวินัยกับ นาย ก. ในมูลกรณีเดียวกันได้อีกต่อไป
แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น เพราะว่าต่อมาในปี 2556 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของ นาย ก. แล้วมีมติว่า การกระทำของ นาย ก. มีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และส่งเรื่องมาที่ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. เพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงในฐานความผิดดังกล่าว กรณีนี้ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. จะพิจารณาโทษวินัยอย่างร้ายแรง นาย ก. ตามมติ ป.ป.ช.ได้หรือไม่
เรื่องนี้มีแนววินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กรณีที่มีการดำเนินการทางวินัยบุคคลใดแล้ว ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ออกจากราชการหรือสั่งให้ยุติเรื่องหรืองดโทษ ผู้ถูกดำเนินการทางวินัยดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขที่ได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯแล้ว ซึ่งมีผลทำให้ไม่อาจดำเนินการเพิ่มโทษหรือดำเนินการทางวินัยในมูลกรณีเดียวกันได้อีกต่อไป แม้ว่าภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่าบุคคลนั้นกระทำความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ก็ตาม ผู้บังคับบัญชาย่อมไม่อาจดำเนินการทางวินัยแก่ผู้นั้นได้อีกต่อไป ดังนั้น กรณีนี้ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. จึงไม่อาจเพิ่มโทษ นาย ก. เป็นความผิดวินัยร้ายแรงตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดได้
เป็นอย่างไรบ้างคะ เรื่องที่นำเสนอวันนี้คงพอเป็นประโยชน์กับเพื่อนครูได้บ้าง ท้ายที่สุดนี้อยากบอกว่าพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อพสกนิกร พวกเราในฐานะที่เป็นข้าราชการจึงควรปฏิบัติตนตามระเบียบแบบแผนและศีลธรรมอันดีเพื่อเป็นเกราะคุ้มครองมิให้ถูกดำเนินการ ซึ่ง ทางวินัยนะคะ แล้วพบกันใหม่จันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

ดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นความผิดทางวินัยหรือไม่

สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูทุกท่าน ช่วงนี้เป็นช่วงระยะเวลา "งดเหล้าเข้าพรรษา" สถานี ก.ค.ศ. จึงจะขอนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับการดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ รวมทั้งการมึนเมาสุราจนเสียราชการ ซึ่งมักมีคำถามว่า ดื่มสุราในเวลาราชการเป็นความผิดวินัยหรือไม่ เป็นคำถามยอดฮิตของคนในสังคมเมื่อพบข้าราชการ มีอาการมึนเมาจากการดื่มสุราในเวลาราชการ คำตอบที่ได้อาจจะเป็นไปตามความเข้าใจของตน บางคนว่าผิดวินัย บางคนว่าไม่ผิด เนื่องจากสุราเป็นของคู่กับความเป็นอยู่ของสังคมไทยเป็นเวลาช้านานมาแล้ว ในงานรื่นเริงหรือวันสำคัญต่างๆ อาจมีการนำสุรามาเลี้ยงดูกัน สร้างบรรยากาศของผู้คนที่อยู่ในงาน
สำนักงาน ก.ค.ศ. ขอเรียนว่าเรื่องการดื่มสุราของข้าราชการนั้น ทางราชการก็เห็นปัญหาดังกล่าวจึงได้วางกรอบให้ข้าราชการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติว่าข้าราชการผู้ใดเสพสุรามึนเมาจนไม่สามารถครองสติได้ ซึ่งอาจทำให้เสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการให้พิจารณาการลงโทษตามควรแก่กรณี ส่วนข้าราชการผู้ใดเสพสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเมาสุราเสียราชการหรือเมาสุราในที่ชุมชนจนเกิดเรื่องเสียหายหรือเสียเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการอาจถูกลงโทษสถานหนักถึงปลดออก หรือไล่ออกจากราชการได้ ซึ่ง ก.ค.ศ. สมัยที่เป็น ก.ค. (เดิม) ได้เคยมีมติให้ซักซ้อมความเข้าใจกรณีข้าราชการครูเสพสุรา โดยให้ข้าราชการครูระมัดระวังเกี่ยวกับการเสพสุรา ให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมดูแล กวดขัน แนะนำ หรือว่ากล่าวตักเตือนข้าราชการครูที่ชอบเสพสุราและประพฤติตนไม่เหมาะสม ถ้าปรากฏว่าข้าราชการครูผู้ใดกระทำผิดกรณีเสพสุราและผู้บังคับบัญชาไม่อาจลงโทษในสถานหนักตามมติคณะรัฐมนตรีได้ หรือผู้บังคับบัญชาได้ดำเนินการทางวินัยตามควรแก่กรณีแล้ว แต่ยังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ผู้บังคับบัญชาก็อาจพิจารณาให้ข้าราชการครูผู้นั้นออกจากราชการกรณีประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ราชการได้
แต่อย่างไรก็ตาม ข้าราชการครูที่ดื่มสุราและอาจเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน อาจถูกลงโทษทางวินัยไม่ร้ายแรง กรณีไม่รักษาชื่อเสียงของตนและไม่รักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย โดยกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว ตามมาตรา 94 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2557 แต่ถ้าหากดื่มสุราที่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว อาจถูกลงโทษ สถานหนักถึงปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ กรณีกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 94 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ค่ะ แล้วพบกันใหม่ในวันจันทร์หน้า
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.

ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การย้ายข้าราชการครู ผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งครูผู้ช่วย จะย้ายได้โดยวิธีการใดบ้าง


สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พบกันอีกเช่นเคยนะคะ สำหรับสัปดาห์นี้จะได้ตอบคำถามในประเด็นเรื่องการย้ายของข้าราชการครูเนื่องจากการสอบแข่งขันได้ ซึ่งมีคำถามไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ.เป็นจำนวนมากว่า มีแนวปฏิบัติอย่างไรและ ก.ค.ศ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่
จากกรณีดังกล่าว ก.ค.ศ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ 0206.2/ว 20 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2554 สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.กรณีที่ผู้สอบแข่งขันได้เป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งครู/ครูผู้ช่วยอยู่ก่อนแล้ว ในการสมัครสอบแข่งขันใหม่ต้องได้รับอนุญาตให้สมัครสอบแข่งขันและตกลงยินยอมให้ย้ายจากผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานเดิมก่อน และผู้นั้นจะต้องสมัครใจที่จะย้ายโดยผลการสอบแข่งขันดังกล่าว
2.กรณีผู้สอบแข่งขันได้ยังมิได้เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในหน่วยงานใด แต่เป็นผู้สอบแข่งขันได้และขึ้นบัญชีรอการบรรจุไว้ในอีกหน่วยงานหนึ่งแล้ว และในขณะที่รอการบรรจุแต่งตั้งตามผลการสอบแข่งขันได้จากที่ใหม่นั้น ที่เดิมก็เรียกบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ต่อมาที่ใหม่ก็เรียกบรรจุและแต่งตั้งอีก ในกรณีนี้ ผู้นั้นต้องสมัครใจที่จะย้ายโดยผลการสอบแข่งขัน แต่ไม่ต้องได้รับอนุญาตและยินยอมให้ย้ายจากผู้บังคับบัญชาเดิม เนื่องจากในวันที่สมัครสอบที่ใหม่ผู้นั้นยังไม่ได้เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
3.ให้ย้ายผู้สอบแข่งขันได้ไปแต่งตั้งโดยให้ได้รับเงินเดือนตามตำแหน่งและคุณวุฒิที่ผู้นั้นสอบแข่งขันได้ หากผู้ใดได้รับเงินเดือนสูงกว่าอัตราเงินเดือนตามตำแหน่งและคุณวุฒิที่สอบแข่งขันได้ ให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนในอันดับและขั้นเดิม แต่ต้องไม่สูงกว่าอันดับและขั้นสูงสุดของเงินเดือนในอันดับสำหรับตำแหน่งที่สอบแข่งขันได้ หากผู้สอบแข่งขันได้ดำรงตำแหน่งครูอยู่แล้วให้ย้ายมาดำรงตำแหน่งครู
4.ผู้สอบแข่งขันได้ที่ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วยอยู่ก่อนแล้วและอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ให้นำผลการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มไปดำเนินการต่อในหน่วยงานการศึกษาใหม่
5.ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้สอบแข่งขันได้ ซึ่งไม่ได้ดำรงตำแหน่งครูหรือครูผู้ช่วยอยู่ก่อน ให้ขออนุมัติจาก ก.ค.ศ.เป็นการเฉพาะราย
สำนักงาน ก.ค.ศ.หวังว่าเพื่อนครูและผู้สนใจที่สอบถามเข้ามาคงเข้าใจในเรื่องดังกล่าว และสามารถดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างถูกต้องต่อไปนะคะ แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ทีมา : มติชน ฉบับวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

กฎ/ระเบียบ/เรื่องใหม่ จาก สพร.

ประกาศ / เรื่องใหม่ จาก สพป.และ สพม.ทั่วประเทศ