หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ
ติวสอบครูผู้ช่วย

เตรียมสอบผู้บริหาร

เตรียมสอบผู้บริหาร
เตรียมสอบผู้บริหาร

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558

วินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เรื่องใหม่น่าสนใจ 

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558

-ก.ค.ศ.เห็นชอบหลักเกณฑ์เลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (P.A.)

              ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่  โดย  อ.นิกร 




 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

วินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 หมวด 6 ได้กำหนดวินัยและการรักษาวินัยของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไว้ เพื่อให้ทราบถึงข้อห้ามและข้อปฏิบัติต่างๆ สัปดาห์นี้จะนำเรื่องความผิดวินัยเกี่ยวกับการเงินและบัญชี ที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่ควรปฏิบัติ มาให้ความรู้ ดังนี้
เรื่องมีอยู่ว่า นายเฉลิม (นามสมมติ) ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ทำเรื่องขอยืมเงินทดรองราชการ และอนุมัติการยืมเงินด้วยตนเอง ทำการเบิกถอนเงินงบประมาณของโรงเรียนออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีแผนงานหรือโครงการรองรับ จำนวน 24 สัญญา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 840,261 บาท บางวันยืมต่อเนื่องในวันเดียวกันถึง 6 สัญญา ทั้งที่เจ้าหน้าที่การเงินทักท้วงแล้ว  แต่นายเฉลิมก็ยังอนุมัติเงินยืมให้กับตนเองอีก และเมื่อยืมไปแล้วก็ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า นายเฉลิมได้นำเงินงบประมาณดังกล่าวไปใช้จ่ายในโครงการหรือแผนงานใดของโรงเรียน บางครั้ง มีการจัดทำโครงการใหม่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับแผนงานหรือโครงการของโรงเรียน การยืมเงินทดรองราชการดังกล่าวของนายเฉลิมจึงไม่โปร่งใส เนื่องจากผู้บริหารโรงเรียนดำเนินการเองทั้งหมด เจ้าหน้าที่การเงินก็จะต้องทำตามที่ผู้บริหารโรงเรียนสั่งการ ซึ่งเมื่อยืมเงินทดรองราชการไปแล้ว เมื่อถึงกำหนดการส่งใช้เงินยืมหรือส่งเอกสารหลักฐานเพื่อล้างหนี้เงินยืม นายเฉลิม กลับไม่ดำเนินการใดๆ แต่ยังคงทำสัญญายืมเงินและอนุมัติเงินยืมให้กับตนเองอีก ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าตามสัญญายืมเงิน โรงเรียนได้จัดกิจกรรมซ้อนกันในวันเดียวถึง 6 กิจกรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนายเฉลิมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยนายเฉลิมรับสารภาพว่าได้กระทำการเช่นนี้จริง และต่อมาได้ทยอยนำเงินมาคืนให้กับทางราชการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้นำเรื่องนี้เสนอต่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยแก่นายเฉลิม ซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ได้พิจารณาแล้ว  เห็นว่านายเฉลิมกระทำผิดวินัยตามมาตรา 84 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มีควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จึงมีมติให้ลงโทษลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งลงโทษลดขั้นเงินเดือนนายเฉลิม 1 ขั้น และรายงาน ก.ค.ศ. เพื่อพิจารณา
สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้นำเรื่องนี้เสนอต่อ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ (ซึ่งทำการแทน ก.ค.ศ.) พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของนายเฉลิมเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 84 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว ตามที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา มีมติให้ลงโทษลดขั้นเงินเดือนนายเฉลิม 1 ขั้น นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งความผิดวินัยอย่างร้ายแรงมีโทษปลดออกหรือไล่ออก ที่ประชุมจึงมีมติให้ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งเพิ่มโทษ นายเฉลิม จากโทษลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น เป็นโทษไล่ออกจากราชการ ให้ถูกต้องตามกฎหมายและเหมาะสมกับกรณีความผิดต่อไป
จากกรณีที่นำมาให้ความรู้ในวันนี้ หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่ให้ประพฤติผิดวินัยได้เป็นอย่างดี ที่จะไม่หลงกระทำผิดให้เสื่อมเสียเกียรติยศศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการ แล้วพบกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

พินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน  ฉบับวันจันทร์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2558

เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กฎ/ระเบียบ/เรื่องใหม่ จาก สพร.

ประกาศ / เรื่องใหม่ จาก สพป.และ สพม.ทั่วประเทศ