หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ
ติวสอบครูผู้ช่วย

เตรียมสอบผู้บริหาร

เตรียมสอบผู้บริหาร
เตรียมสอบผู้บริหาร

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ข้อพึงระวังในการพิจารณาความผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ

เรื่องใหม่น่าสนใจ 

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558

-ก.ค.ศ.เห็นชอบหลักเกณฑ์เลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (P.A.)

              ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่  โดย  อ.นิกร 




 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

ข้อพึงระวังในการพิจารณาความผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ


สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ในการพิจารณาความผิดวินัยผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของผู้บังคับบัญชาและ/หรือ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา โดยเฉพาะความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ที่ผ่านๆ มานั้น ยังมีบางเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาโดยผิดหลงหรือไม่ถูกต้อง เพื่อเป็นข้อเตือนใจในการพิจารณาให้ถูกต้องตามบทกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรี วันนี้เราจะมาคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันค่ะ
การพิจารณาความผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หลายท่านคงทราบดีแล้วว่าต้องพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายให้ครบองค์ประกอบของความผิดฐานทุจริต กล่าวคือ ผู้กระทำต้อง 1) มีหน้าที่ราชการ 2) ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ 3) เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ และ 4) มีเจตนาทุจริต ซึ่งผู้กระทำต้องมีเถยจิตหรือจิตอันชั่วร้าย คิดเป็นโจร ส่วนในปัญหาข้อเท็จจริงก็ต้องมีพยานหลักฐานโดยชัดแจ้ง เมื่อเป็นดังนี้แล้วจึงปรับฐานความผิดวินัยเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ตามมาตรา 84 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งความผิดวินัยอย่างร้ายแรงมีโทษสองสถานคือ ปลดออกหรือไล่ออก แต่โดยที่ความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการนับเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ซึ่งทางราชการไม่พึงประสงค์ที่จะให้บุคคลที่ประพฤติเช่นนี้อยู่ในราชการ จึงมีมติคณะรัฐมนตรีแจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0205/ว 234 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536 สรุปได้ว่า การนำเงินที่ทุจริตไปแล้วมาคืนหรือมีเหตุอันควรปรานีอื่นใด ไม่เป็นเหตุลดหย่อนโทษลงเป็นโทษปลดออกจากราชการ นั่นคือจำต้องไล่ออกจากราชการสถานเดียว
ดิฉันขอเรียนว่า ยังพบผู้บังคับบัญชาผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนจำนวนหนึ่ง เมื่อตรวจพิจารณาสำนวนการสอบสวนที่คณะกรรมการสอบสวนเสนอให้ลงโทษไล่ออกฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ผู้บังคับบัญชาเห็นชอบว่าเป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการตามที่คณะกรรมการสอบสวนเสนอ แต่กลับมีความเห็นเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ให้มีมติลงโทษปลดผู้กระทำผิดออกจากราชการ และ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาก็มีมติให้ลงโทษปลดผู้กระทำผิดคนนั้นออกจากราชการ ตามมาตรา 84 วรรคสาม ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ซึ่งไม่ต้องด้วยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทำให้ผู้กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงได้รับเงินบำเหน็จหรือบำนาญไปพร้อมกับการถูกปลดออก จึงทำให้นโยบายการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบไม่อาจสัมฤทธิผลได้โดยแท้ และดิฉันอยากเรียนย้ำเตือนว่า ในส่วนของผู้บังคับบัญชาและ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ผู้พิจารณาอาจมีความผิดวินัยเสียเองได้ เพราะการเป็นข้าราชการจะต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอีกด้วย ตามมาตรา 85 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน

ดังนั้น การพิจารณาความผิดวินัยฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการจำต้องพิจารณาด้วยความละเอียดถี่ถ้วน ระมัดระวัง รักษาประโยชน์ของทางราชการ อนึ่ง หากพิจารณาแล้วข้อเท็จจริงไม่ปรากฏพยานหลักฐานโดยชัดแจ้ง หรือไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการแล้ว ก็ไม่จำต้องปรับบทลงโทษฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ แต่กรณีอาจเป็นความผิดฐานอื่นๆ ได้ เช่น กรณีปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ, กรณีกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นต้น หากพิจารณาแล้วชัดแจ้งทั้งปัญหาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงแล้วว่าผู้กระทำผิดทุจริตต่อหน้าที่ราชการต้องลงโทษไล่ออกจากราชการเท่านั้น เพื่อประโยชน์ของทางราชการและช่วยกันขจัดปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการให้หมดไป แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.

ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้

เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การเลื่อนขั้นเงินเดือน การย้าย...กับ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา

เรื่องใหม่น่าสนใจ 

- พรบ.เงินเดือนใหม่ข้าราชการครูฯ พ.ศ.2558

-ก.ค.ศ.เห็นชอบหลักเกณฑ์เลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (P.A.)

              ข้อสอบออนไลน์ ( สอบครู - ผู้บริหาร - บุคลากรการศึกษาชุดใหม่  โดย  อ.นิกร 




 เตรียมสอบ บน ยูทูป ทั้งหมด ได้ที่

 ติวสอบ บน ยูทูป


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

การเลื่อนขั้นเงินเดือน การย้าย...กับ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา

Epson 3880

สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน วันนี้ดิฉันอยากพูดคุยเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา โดยเฉพาะเรื่องการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา เพื่อเป็นข้อเตือนใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความถูกต้อง เป็นธรรม เปิดเผย โปร่งใสตรวจสอบได้
การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามบทกฎหมาย มาตรา 72 และมาตรา 73 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงาน โดยยึดหลักการปฏิบัติตนที่เหมาะสม ปฏิบัติราชการอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนให้ยึดหลักคุณธรรม มีความเที่ยงธรรม เปิดเผย โปร่งใสตรวจสอบได้ และนำระบบเปิดมาใช้กับการพิจารณา ในส่วนของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน คือให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการพิจารณาความดีความชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หากพิจารณาเรื่องการเลื่อนขั้นเงินเดือนแล้วไม่เห็นชอบประการใด ต้องมีเหตุผลโดยชัดแจ้ง และให้ผู้บังคับบัญชากลับไปดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง
ดิฉันขอยกอุทาหรณ์ข้อเท็จจริงในปี 2552-2553 มี อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาแห่งหนึ่งร่วมกันหรือแบ่งโควต้ากันเสนอรายชื่อข้าราชการที่เป็นพวกพ้องของตนให้ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษเกินโควต้า 15% นับเป็นจำนวนมาก ก.ค.ศ. ในขณะนั้นมีมติถอดถอน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษานั้นทั้งคณะ ตามมาตรา 21 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ประกอบกับหลักเกณฑ์การพ้นจากตำแหน่ง ฯลฯ กรณีมีความประพฤติไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ หรือมีเจตนากระทำโดยไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม ใช้อำนาจหน้าที่ ขัดต่อกฎหมาย ในส่วนอนุกรรมการที่ยังเป็นข้าราชการได้ถูกดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงอีกด้วย ผลการสอบสวนท่านเหล่านั้น ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษ ลดขั้นเงินเดือนคนละ 1 ขั้น
ส่วนการพิจารณาย้ายของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาก็เช่นกัน ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญต้องพิจารณาด้วยความสุจริต ยุติธรรม หลายท่านอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการเรียกรับเงินเพื่อให้ได้ย้าย ดิฉันขอเตือนว่าการเรียกรับเงินเป็นความผิดทั้งวินัยและอาญา โทษทางวินัยอาจถูกปลดออกหรือไล่ออก โทษทางอาญาอาจถูกลงโทษจำคุกได้ ท่านที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณา หากกระทำการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบดังกล่าว ขอให้เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะอาจมีเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่จ้องจับตาดูท่านอยู่ และรวบรวมหลักฐานข้อมูลต่างๆ ส่งให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยหรือส่ง ป.ป.ช., พนักงานสอบสวน (ตำรวจ) ดำเนินคดีอาญากับท่านที่ประพฤติปฏิบัติโดยมิชอบดังกล่าว
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้คงจะเป็นข้อมูลและข้อเตือนใจต่อเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาให้ปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้อง เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของทางราชการ และขจัดปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการให้หมดไป แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557


   คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้
เตรียมสอบผู้บริหารสถานศึกษา (รอบ 2)

กฎ/ระเบียบ/เรื่องใหม่ จาก สพร.

ประกาศ / เรื่องใหม่ จาก สพป.และ สพม.ทั่วประเทศ