หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ
ติวสอบครูผู้ช่วย

เตรียมสอบผู้บริหาร

เตรียมสอบผู้บริหาร
เตรียมสอบผู้บริหาร

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

การปฏิบัติหน้าที่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู...เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไม่

การปฏิบัติหน้าที่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู...เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไม่

สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน สถานี ก.ค.ศ. จันทร์นี้ขอเสนอกรณีการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ คณะกรรมการดำเนินการ หรือผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ หากปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์ หลายคนอาจสงสัยว่ากรณีนี้จะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ และอาจเป็นเหตุให้ถูกดำเนินการทางวินัยได้หรือไม่
เรื่องนี้มีแนววินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า การจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ข้าราชการเพื่อประโยชน์แก่การดำรงชีพนอกเหนือจากสวัสดิการที่ทางราชการจัดให้แก่ข้าราชการเป็นกรณีปกติหรือเพื่อประโยชน์แก่การสนับสนุนการปฏิบัติราชการ โดยเป็นหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการในการริเริ่ม ดำเนินการ หรือสนับสนุนให้มีการดำเนินการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ นอกจากนี้ ในกรณีที่มีการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการตามกฎหมายใดเป็นการเฉพาะ การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการก็ยังคงต้องอยู่ในบังคับของระเบียบนี้เท่าที่ไม่ขัดแย้งกับกฎหมายเฉพาะนั้นด้วย ดังนั้น การจัดสวัสดิการของข้าราชการไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 หรือตามกฎหมายเฉพาะ จึงถือว่าเป็นการจัดสวัสดิการข้าราชการเช่นเดียวกันและย่อมได้รับการสนับสนุนหรือการอำนวยความสะดวกจากส่วนราชการด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ของข้าราชการครู แม้ว่าจะจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 แต่ก็เป็นการจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้างของส่วนราชการในการดำรงชีพนั่นเอง จึงอยู่ในความหมายของการจัดสวัสดิการข้าราชการ และข้าราชการผู้ปฏิบัติงานเป็นกรรมการของสหกรณ์ออมทรัพย์ย่อมเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วย ดังนั้น ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จึงถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วย
ดังนั้น เพื่อนครูท่านใดที่ปฏิบัติหน้าที่ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จึงควรตระหนักไว้เสมอว่าการปฏิบัติหน้าที่ของท่านในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมีความสำคัญยิ่ง หากท่านปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหรือประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย นั่นย่อมส่งผลต่อหน้าที่ราชการของท่านและอาจเป็นเหตุให้ท่านถูกดำเนินการทางวินัยได้อย่างแน่นอน แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

การเลือกตั้งอนุกก.ผู้แทนขรก.ครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. สป.

การเลือกตั้งอนุกก.ผู้แทนขรก.ครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. สป.

ในส่วนของ อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้มอบสำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งอนุกรรมการฯ โดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ลงนามในประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 4 กันยายน 2557 เรื่องการรับสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และเรื่องการกำหนดรายละเอียดและวิธีการเลือกตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ ได้กำหนดสัดส่วนและจำนวนตามกลุ่มอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ดังนี้ 1.กลุ่มอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู จำนวน 2 คน 2.กลุ่มอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน 3.กลุ่มอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารการศึกษา จำนวน 1 คน 4.กลุ่มอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น จำนวน 1 คน พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการเลือกตั้งประจำสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และตั้งคณะกรรมการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง เพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว โดยกำหนดให้สำนักงาน กศน. จังหวัด/กทม. เป็นเขตเลือกตั้ง
สำหรับการเลือกตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการนั้น ได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 27 กันยายน 2557 โดยเปิดรับสมัครผู้ประสงค์จะสมัครเข้ารับการเลือกตั้งเป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 9-12 กันยายน พ.ศ.2557 เวลา 08.30-15.00 น. ณ ศูนย์การเรียนรู้ สำนักงาน ก.ค.ศ. อาคารรัชมังคลาภิเษก ชั้น 5 กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.otepc.go.th หรือรับใบสมัครได้ด้วยตนเองที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติตามข้อ 6 ข้อ 7 และข้อ 8 ของการกำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา วาระการดำรงตำแหน่งและการพ้นจากตำแหน่งของอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้งในส่วนราชการ พ.ศ.2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณีซึ่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการที่มีคุณสมบัติดังกล่าว สามารถสมัครเข้ารับเลือกตั้งเพื่อเป็นอนุกรรมการ ผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจะตรวจสอบและวินิจฉัยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับเลือกตั้ง และประกาศรายชื่อและหมายเลขประจำตัวผู้มีสิทธิเข้ารับการเลือกตั้ง ณ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สำนักงาน ก.ค.ศ.) และหน่วยเลือกตั้งในวันที่ 16 กันยายน 2557
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจและมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ สมัครเข้ารับการเลือกตั้งได้ที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ตั้งแต่วันที่ 9-12 กันยายน 2557 นี้ แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้านะคะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557

วินัยข้าราชการครูเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

วินัยข้าราชการครูเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 นี้ ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของท่านทั้งหลาย เนื่องจากเป็นวันเลือกตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเป็นองค์คณะบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษานั้นๆ จะเป็น ผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อเลือกผู้สมัครเลือกตั้ง เข้ามาเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งประกอบด้วยอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู อนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา และอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษา ประเภทละ 1 คน
เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนใจให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน 169 เขตพื้นที่การศึกษา ที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 ว่า การเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มิใช่เป็นเพียงสิทธิที่จะไปลงคะแนนเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมาย ตามมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีหน้าที่วางรากฐานให้เกิดระบอบการปกครองเช่นว่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญต่อทุกคนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ดิฉันขอนำบทบัญญัติเกี่ยวกับวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการปฏิบัติตนในการเลือกตั้งมาบอกกล่าวกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กล่าวคือ ตามมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน กำหนดไว้ว่า "ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ และในการปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน โดยต้องไม่อาศัยอำนาจและหน้าที่ราชการของตนแสดงการฝักใฝ่ ส่งเสริม เกื้อกูล สนับสนุนบุคคล กลุ่มบุคคล หรือพรรคการเมืองใด
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการทุจริตโดยการซื้อสิทธิหรือขายเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือการเลือกตั้งอื่นที่มีลักษณะเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งจะต้องไม่ให้การส่งเสริมสนับสนุน หรือชักจูงให้ผู้อื่นกระทำการในลักษณะเดียวกัน การดำเนินการที่ฝ่าฝืนหลักการดังกล่าวนี้ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง" ส่วนท่านที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีหน้าที่ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัย และไม่อาศัยอำนาจหน้าที่ราชการของตน กระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย
ที่ดิฉันได้นำบทกฎหมาย มาบอกกล่าวเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในวันนี้ ก็เพื่อเตือนสติทุกท่าน ให้พึงระวังและอย่าได้กระทำการใดๆ ที่จะนำมาซึ่งการกระทำผิดวินัยดังกล่าว และในฐานะที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถือเป็นปูชนียบุคคลที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้เรียนและสังคม ก็ต้องแสดงพลังประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ เพื่อให้เป็นการเลือกตั้งที่ใสสะอาดและได้ผู้แทนที่ดี มีความรู้คู่คุณธรรม มาบริหารงานบุคคลอันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราชการต่อไป แล้วพบกันสัปดาห์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com

ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

ความเคลื่อนไหวของ ก.ค.ศ.

สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน พบกันอีกเช่นเคย สำหรับสัปดาห์นี้ดิฉันมีความเคลื่อนไหวของสำนักงาน ก.ค.ศ. ในช่วงปลายปีงบประมาณ พ.ศ.2557 มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน กล่าวคือในระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน 2557 นี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ยังคงทำงานหนักเพื่อข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน โดยกำหนดให้มีการประชุมสัมมนาประเด็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายประการ ดังนี้
1.กำหนดให้มีการจัดประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ.ตั้งในส่วนราชการ รวม 4 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่
ครั้งที่ 1 ภาคเหนือ วันที่ 17-19 สิงหาคม 2557 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จ.เชียงใหม่
ครั้งที่ 2 ภาคใต้ วันที่ 24-26 สิงหาคม 2557 ณ โรงแรมไดมอนด์ จ.สุราษฎร์ธานี
ครั้งที่ 3 ภาคกลาง วันที่ 14-16 กันยายน 2557 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร
ครั้งที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 28-30 กันยายน 2557 ณ โรงแรมเซ็นทารา แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะเป็นการรับฟังข้อคิดเห็น ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนวิพากษ์การปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
2.ก.ค.ศ.กำหนดให้มีการจัดการเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาที่ครบวาระ จำนวน 169 เขต ในวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2557 เนื่องจาก สพฐ. ได้แจ้งว่า ในวันดังกล่าวมีการอบรมทางไกลแก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ จึงเลื่อนกำหนดการเลือกตั้งออกไปเป็นวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 และขอเชิญชวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ไปใช้สิทธิโดยพร้อมเพรียงกันตามจุดเลือกตั้งที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากำหนด
3.สำนักงาน ก.ค.ศ.จะจัดประชุมสัมมนาวิชาการวิพากษ์ประเด็นการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในวันที่ 1 กันยายน 2557 เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ทรงคุณวุฒิในประเด็นต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีงานสำคัญๆ อีกหลายงานที่สำนักงาน ก.ค.ศ.เร่งดำเนินการในช่วงเวลา 2 เดือนนี้ เช่น การจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินเขตพื้นที่การศึกษาดีเด่น การจัดทำระบบทะเบียนประวัติและระบบเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ การจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการเลื่อนวิทยฐานะแนวใหม่ตามบันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ฯลฯ ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ.จะได้เร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

เมื่อครูถูกลงโทษทางวินัย ต้องอุทธรณ์คำสั่งองค์กรใด

เมื่อครูถูกลงโทษทางวินัย ต้องอุทธรณ์คำสั่งองค์กรใด

สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน พบกันเช่นเคยนะคะ สำหรับวันนี้จะนำเรื่องการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยจะต้องอุทธรณ์ต่อองค์กรใดมาบอกเล่าให้ฟัง ซึ่งก่อนจะมีการอุทธรณ์ ท่านต้องถูกผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยและถูกลงโทษแล้ว หากเป็นวินัยไม่ร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาของท่านมีอำนาจดำเนินการ แต่หากเป็นกรณีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 จึงจะมีอำนาจดำเนินการทางวินัยแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และการสั่งลงโทษวินัยอย่างร้ายแรงต้องสั่งตามมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี
การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง (โทษปลดออกหรือโทษไล่ออก) นั้น จะต้องอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ตามมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ท่านได้รับแจ้งคำสั่งลงโทษ โดยต้องทำเป็นหนังสือถึงประธาน ก.ค.ศ. หรือเลขาธิการ ก.ค.ศ. โต้แย้งว่าการลงโทษท่านไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม แสดงข้อเท็จจริงและเหตุผลให้เห็นว่าท่านมิได้กระทำผิดประการใด หรือความผิดของท่านไม่ถึงขั้นร้ายแรงที่จะต้องปลดหรือไล่ท่านออกจากราชการ พร้อมด้วยพยานหลักฐาน (ถ้ามี)
ส่วนโทษวินัยไม่ร้ายแรง (โทษภาคทัณฑ์ โทษตัดเงินเดือน หรือโทษลดขั้นเงินเดือน) จะต้องอุทธรณ์ต่อองค์กรใดนั้น ท่านต้องดูว่าโทษนั้นๆ ถ้าสั่งโดยอำนาจของผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลงมาจะต้องอุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษานั้น แต่ถ้าผู้สั่งลงโทษคือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือผู้บังคับบัญชาคนใดก็ตามที่สั่งลงโทษตามมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ต้องอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ซึ่งการอุทธรณ์กรณีโทษวินัยไม่ร้ายแรงก็เป็นการอุทธรณ์ตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน คือต้องอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ท่านได้รับแจ้งคำสั่งลงโทษ โดยต้องทำเป็นหนังสือถึงประธาน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประธาน ก.ค.ศ. หรือเลขาธิการ ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี
สำหรับการส่งหนังสืออุทธรณ์ของท่าน อาจส่งโดยตรงที่สำนักงาน ก.ค.ศ. หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานั้นๆ หรือจะส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ (มีใบตอบรับทางไปรษณีย์) ก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเสียเงินทองค่าพาหนะเดินทางมาเพื่อยื่นหนังสืออุทธรณ์ และควรยื่นเสียแต่เนิ่นๆ ก่อนครบกำหนด 30 วัน (ไม่ใช่หนึ่งเดือนนะคะ) และไม่ควรยื่นวันสุดท้าย เพราะหากมีอะไรผิดพลาดก็จะแก้ไขไม่ทันค่ะ โดยถือวันที่ที่ทำการไปรษณีย์ประทับตราลงรับหนังสือของท่านเป็นวันยื่นหนังสืออุทธรณ์ (มีข้อสังเกตสำหรับท่านที่ถูกลงโทษ ในคำสั่งลงโทษตอนท้ายจะบอกให้ท่านทราบว่าจะต้องอุทธรณ์ต่อองค์กรใดภายใน 30 วัน ส่วนการทำหนังสืออุทธรณ์ ท่านเป็นผู้รู้ข้อเท็จจริงดีที่สุดท่านทำเองจะดีกว่า หากสุดวิสัยไม่อาจทำเองได้จะปรึกษาผู้รู้ให้ช่วยเหลือก็ได้ แต่ไม่ว่าจะอุทธรณ์กรณีใดก็ตาม ท่านต้องอย่าลืมลงลายมือชื่อของท่านในหนังสืออุทธรณ์ด้วยตนเอง)
อนึ่ง เมื่อยื่นหนังสืออุทธรณ์ถูกต้องภายใน 30 วันแล้ว ก่อนการพิจารณาอุทธรณ์แล้วเสร็จ ท่านสามารถยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติมได้ หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้ แล้วพบกันใหม่ในวันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

พระราชบัญญัติล้างมลทินฯกับผลทางกฎหมายที่ควรรู้

พระราชบัญญัติล้างมลทินฯกับผลทางกฎหมายที่ควรรู้

สวัสดีค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน สถานี ก.ค.ศ. จันทร์นี้ขอเสนอกรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งถูกดำเนินการทางวินัยและต่อมาได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 ซึ่งมีผลทำให้ไม่อาจดำเนินการเพิ่มโทษหรือดำเนินการทางวินัยในมูลกรณีเดียวกันได้อีกต่อไป หากภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลในกรณีเดียวกันว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีดังกล่าวนี้มีปัญหาว่าผู้บังคับบัญชาของข้าราชการครูรายนี้จะต้องดำเนินการทางวินัยต่อไปหรือไม่อย่างไร โดยมีตัวอย่าง ข้อเท็จจริงดังนี้
เมื่อปี 2545 นาย ก. ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกดำเนินการทางวินัย กรณีทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ผลการดำเนินการทางวินัยท้ายที่สุดผู้บังคับบัญชาสั่งงดโทษ เรื่องทางวินัยเป็นที่ยุติตั้งแต่ปี 2546 ต่อมามีการประกาศใช้พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550 โดยผลของกฎหมายฉบับนี้ ทำให้ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. ไม่อาจดำเนินการเพิ่มโทษหรือดำเนินการทางวินัยกับ นาย ก. ในมูลกรณีเดียวกันได้อีกต่อไป
แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น เพราะว่าต่อมาในปี 2556 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของ นาย ก. แล้วมีมติว่า การกระทำของ นาย ก. มีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และส่งเรื่องมาที่ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. เพื่อพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงในฐานความผิดดังกล่าว กรณีนี้ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. จะพิจารณาโทษวินัยอย่างร้ายแรง นาย ก. ตามมติ ป.ป.ช.ได้หรือไม่
เรื่องนี้มีแนววินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า กรณีที่มีการดำเนินการทางวินัยบุคคลใดแล้ว ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ออกจากราชการหรือสั่งให้ยุติเรื่องหรืองดโทษ ผู้ถูกดำเนินการทางวินัยดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขที่ได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯแล้ว ซึ่งมีผลทำให้ไม่อาจดำเนินการเพิ่มโทษหรือดำเนินการทางวินัยในมูลกรณีเดียวกันได้อีกต่อไป แม้ว่าภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติว่าบุคคลนั้นกระทำความผิดวินัยร้ายแรง ตามมาตรา 92 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ก็ตาม ผู้บังคับบัญชาย่อมไม่อาจดำเนินการทางวินัยแก่ผู้นั้นได้อีกต่อไป ดังนั้น กรณีนี้ผู้บังคับบัญชาของ นาย ก. จึงไม่อาจเพิ่มโทษ นาย ก. เป็นความผิดวินัยร้ายแรงตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดได้
เป็นอย่างไรบ้างคะ เรื่องที่นำเสนอวันนี้คงพอเป็นประโยชน์กับเพื่อนครูได้บ้าง ท้ายที่สุดนี้อยากบอกว่าพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อพสกนิกร พวกเราในฐานะที่เป็นข้าราชการจึงควรปฏิบัติตนตามระเบียบแบบแผนและศีลธรรมอันดีเพื่อเป็นเกราะคุ้มครองมิให้ถูกดำเนินการ ซึ่ง ทางวินัยนะคะ แล้วพบกันใหม่จันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ที่มา : มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อัพเดทเรื่องราว - ข้อสอบใหม่ ๆ 

เข้าห้องสอบออนไลน์ ( ฟรี)

เน็ตช้า ... คลิ๊กที่  http://tuewsob.blogspot.com
ห้องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

... ห้องติวสอบผู้บริหาร + การศึกษาพิเศษ +  การศึกษานอกระบบ (กศน.)


ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 1  คลิ๊กที่ http://tuewsobkru.blogspot.com

ห้อง ... ครูวิชาเอก  ห้อง 2  คลิ๊กที่ http://tuewsob2011.blogspot.com

ฟรี... ห้องติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา-ครู-บุคลากรการศึกษา  ที่ 
" ติวสอบดอทคอม "  เขียน-สร้าง-บรรยาย โดย  (ผอ.นิกร  เพ็งลี)

กฎ/ระเบียบ/เรื่องใหม่ จาก สพร.

ประกาศ / เรื่องใหม่ จาก สพป.และ สพม.ทั่วประเทศ