หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์
หน้าหลัก ติวสอบดอทคอม เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบดอทคอม

ติวสอบดอทคอม
เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ

ติวสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ และ กรณีปกติ
ติวสอบครูผู้ช่วย

เตรียมสอบผู้บริหาร

เตรียมสอบผู้บริหาร
เตรียมสอบผู้บริหาร

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560

ไขข้อข้องใจการปรับคุณวุฒิและการนำคุณวุฒิลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเพื่อขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ

สถานี ก.ค.ศ.
ไขข้อข้องใจการปรับคุณวุฒิและการนำคุณวุฒิลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเพื่อขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ
          ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและผู้สนใจทุกท่าน เมื่อปลายปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ก.ค.ศ.
ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ
1) การปรับปรุงมาตรฐานวิทยฐานะของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา วิทยฐานะครูชำนาญการและการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะครูชำนาญการ (ว20/2559 และ
ว26/2559) และ 2) หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนในกรณีที่ได้รับคุณวุฒิเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น ตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง  (ว 24/2559) ซึ่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้ให้ความสนใจ
เป็นจำนวนมาก และมีบางประเด็นที่มีการสอบถามเข้ามายังสำนักงาน ก.ค.ศ. เพิ่มเติม ซึ่งเป็นประเด็นคำถามที่น่าสนใจ
ในสัปดาห์นี้จึงนำข้อคำถามเหล่านั้นมาบอกกล่าวให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน ดังนี้
          1. หากสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท/เอก หรือได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท/เอก ซึ่งเป็นคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง ก่อนที่จะประกาศใช้หลักเกณฑ์ทั้ง 2 หลักเกณฑ์นี้ ถึงแม้จะเป็นคุณวุฒิทางบริหารการศึกษา สามารถนำมาปรับเพิ่มคุณวุฒิ ปรับเงินเดือน และลดระยะเวลาการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้ ใช่หรือไม่
          ตอบ กรณีคำถามดังกล่าว เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ขอแยกคำตอบออกเป็น 2 ประเด็น คือ
1) ปัจจุบันเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (บรรจุและแต่งตั้งก่อนวันที่ 9 ธันวาคม 2559) สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท/เอก หรือได้เข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท/เอก ก่อนที่จะประกาศใช้หลักเกณฑ์ฯ
ว20/2559  ถึงแม้จะเป็นคุณวุฒิทางบริหารการศึกษา สามารถนำมาขอลดระยะเวลาการขอมีวิทยฐานครูชำนาญการได้ 
2) สำหรับการนำคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษานั้นมาขอปรับเพิ่มคุณวุฒิและการปรับเพิ่มเงินเดือน จะได้หรือไม่ คุณวุฒิดังกล่าวต้องสำเร็จการศึกษาหลังบรรจุและแต่งตั้งและต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของหลักเกณฑ์ฯ ว 24/2559 ซึ่งต้องดูรายละเอียดเป็นกรณี ๆ ไป
          2. ขณะนี้ได้ไปสอบเข้าศึกษาต่อไว้แล้ว และได้ขออนุญาตลาเรียนไว้ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2559 และลงทะเบียนเรียนไว้แล้ว กรณีนี้สามารถนำมาลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเพื่อขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้หรือไม่
          ตอบ ปัจจุบันเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งกำลังศึกษาต่อหรือสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอกก่อนวันที่ 9 ธันวาคม 2559 เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วสามารถนำวุฒิดังกล่าวมาปรับลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเพื่อขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้
          3. หากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทแล้ว จะศึกษาต่อระดับปริญญาเอก จะต้องศึกษาในสาขาวิชาที่สอน
หรือสาขาวิชาที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ใช่หรือไม่
          ตอบ กรณีที่จะขอปรับเพิ่มคุณวุฒิและปรับเงินเดือน หากเข้าศึกษาต่อหลังวันที่ 28 ธันวาคม 2559 และกรณีจะขอนำคุณวุฒิมาขอลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเพื่อขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ โดยเข้าศึกษาหลังต่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 จะต้องเป็นวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และเป็นวุฒิในสาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทที่สำเร็จการศึกษามาแล้ว หรือเป็นวุฒิที่ตรงกับสาขาวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ผู้ขอได้ทำการสอนหรือเคยทำการสอน หรือสาขาวิชาที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน ตามที่ส่วนราชการกำหนดโดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ.   หวังว่าคำถาม คำตอบ ที่นำมาบอกกล่าวในวันนี้ จะทำให้คุณครูทุกท่าน ได้คลายความสงสัยและมีความเข้าใจ
ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า
พินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.  


เผยแพร่ทางคอลัมน์ “สถานี ก.ค.ศ.”

หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2560

 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา   

-คลากรการศึกษา  ที่ 
ติวสอบดอทคอม " 
(เว็บฟรีข้อสอบออนไลน์ ครู/ผู้บริหาร/บุคลากร การศึกษา)

ทิศทางการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

สถานี ก.ค.ศ.
ทิศทางการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

         ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน พบกันในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกของปี พ.ศ. 2560 ในวันนี้จึงจะนำทิศทางและความเคลื่อนไหวด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในปี พ.ศ. 2560 มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน ซึ่งจากวันที่ 20 ธันวาคม 2559 อันเป็นวันที่ นายแพทย์ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นทางการ และได้มอบนโยบายการทำงานให้กับผู้บริหารของหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล  โดยมุ่งเน้นในการน้อมนำแนวพระราชดำริ และพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ใส่เกล้าฯ เพื่อการปฏิบัติงานในระดับต่างๆ สำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา นั้น จะมุ่งเน้นไปที่ ครู ซึ่งถือว่าเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและผู้เรียน ทิศทางการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในปี พ.ศ. 2560 จึงมุ่งไปที่การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และมีเส้นทางความก้าวหน้าที่เป็นระบบ  การสรรหาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งต่างๆ ให้ได้บุคคลที่มีคุณภาพเหมาะสมกับหน้าที่ในตำแหน่งนั้นๆ การขอรับการประเมินเพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงาน และส่งผลสัมฤทธิ์ไปยังผู้เรียน นอกจากนี้ยังจะต้องเร่งรัดดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัยให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งที่กล่าวมานี้เป็นงานที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด หวังว่าทุกท่านคงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้
         อนึ่ง กรณีขอรับการประเมินเพื่อให้มีวิทยฐานะชำนาญการ สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้มีหนังสือแจ้งแนวปฏิบัติตามมติ ก.ค.ศ. เพิ่มเติม กล่าวคือ ผู้ที่ยื่นขอรับการประเมินเพื่อให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ หากสำเร็จการศึกษาหรืออยู่ระหว่างการศึกษา ในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก ก่อนวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ให้นำวุฒิดังกล่าวมาลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการได้ ทั้งนี้คุณวุฒิที่จะนำมาใช้ลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งต้องเป็นคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.otepc.go.th
         และในโอกาสที่เป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลขึ้นปีใหม่ ผมขอถือโอกาสนี้อำนวยพรให้กับเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน มีสุขภาพกายที่แข็งแรง มีสุขภาพใจสดชื่นแจ่มใส ตลอด ปี พ.ศ. 2560 นะครับ

พินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ. 

เผยแพร่ทางคอลัมน์ “สถานี ก.ค.ศ.”
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2560


 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา   

-คลากรการศึกษา  ที่ 
ติวสอบดอทคอม "

การปรับคุณวุฒิของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

สถานี ก.ค.ศ.
การปรับคุณวุฒิของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

          ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ตามที่ได้มีการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 11/2559 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา  ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วเห็นว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ถือเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและคุณภาพผู้เรียน จึงจำเป็นต้องมีความรู้ความชำนาญในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน และสามารถนำคุณวุฒิที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้นภายหลังจากการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามาใช้ประโยชน์ต่อความก้าวหน้าในวิชาชีพต่อไป จึงมีมติเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือน ในกรณีที่ได้รับคุณวุฒิเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น ตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และเห็นชอบให้ปรับปรุงมาตรฐานวิทยฐานะ ด้านคุณสมบัติเฉพาะสำหรับวิทยฐานะครูชำนาญการ และคุณสมบัติในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้รับความสนใจจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นจำนวนมาก ในสัปดาห์นี้จึงนำทั้ง 2 เรื่องนี้ มาบอกกล่าวให้ได้ทราบโดยทั่วกันดังนี้
           การให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนในกรณีที่ได้รับคุณวุฒิเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ ดังนี้
          1. ต้องเป็นคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และกำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
          2. ต้องได้รับคุณวุฒิเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น หลังจากที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
          3. คุณวุฒิที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้นต้องเป็นคุณวุฒิในสาขาวิชาเดียวกันกับคุณวุฒิในระดับปริญญาตรี และหรือระดับปริญญาโทที่ใช้ในการบรรจุและแต่งตั้ง หรือเป็นคุณวุฒิที่ตรงกับสาขาวิชาหรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ผู้นั้นได้ทำการสอนหรือเคยทำการสอน หรือเป็นคุณวุฒิที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนรวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ให้เป็นไปตามที่ส่วนราชการต้นสังกัดกำหนด โดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ.
          4. สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับอนุมัติ หรือได้รับอนุญาตให้ลาศึกษาต่อตามระเบียบของทางราชการเต็มเวลา หรือใช้เวลาราชการบางส่วน หรือได้รายงานการไปศึกษาโดยไม่ใช้เวลาราชการตามระเบียบของทางราชการ และสำเร็จการศึกษาอยู่ก่อนวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับ และเป็นไปตามข้อ 2 สามารถนำคุณวุฒิที่ได้รับเพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น มาใช้สำหรับการปรับเงินเดือนในกรณีที่ได้รับคุณวุฒิที่เพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้นต่อไปได้
        กรณีการยื่นขอรับการประเมินเพื่อให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ หากได้รับคุณวุฒิที่เพิ่มขึ้นหรือสูงขึ้น และได้ยื่นขอรับการประเมินวิทยฐานะไว้ก่อนวันที่ 9 ธันวาคม 2559 สามารถนำมาลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งได้ 
            หวังว่า สิ่งที่นำมาบอกกล่าวในวันนี้จะทำให้ทุกท่านได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมโดยทั่วกัน แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า

พินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ. 
เผยแพร่ทางคอลัมน์ “สถานี ก.ค.ศ.”
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2559




 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา   

-คลากรการศึกษา  ที่ 
ติวสอบดอทคอม "

สำนักงาน ก.ค.ศ. จัดสรรเงินทุนหมุนเวียน ปี พ.ศ. 2560 ให้ข้าราชการครูกู้ยืม

สถานี ก.ค.ศ.
สำนักงาน ก.ค.ศ. จัดสรรเงินทุนหมุนเวียน ปี พ.ศ. 2560
ให้ข้าราชการครูกู้ยืม
     สวัสดีครับเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พบกันอีกเช่นเคยครับ สำหรับวันนี้ผมจะขอนำเสนอภารกิจสำคัญอีกด้านหนึ่งของสำนักงาน ก.ค.ศ. ซึ่งนอกจากงานด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เกี่ยวกับการสรรหา บรรจุแต่งตั้ง การเลื่อนวิทยฐานะ เงินเดือน ค่าตอบแทน วินัย อุทธรณ์และร้องทุกข์แล้ว สำนักงาน ก.ค.ศ. ยังได้ดำเนินการในเรื่องของการจัดสวัสดิการให้แก่เพื่อนครู คือ เงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู ซึ่งสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระหนี้สินที่จำเป็นเร่งด่วนของข้าราชการครู โดยการให้กู้ยืมรายละไม่เกิน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ซึ่งที่ผ่านมามีข้าราชการครู ได้รับการช่วยเหลือบรรเทาภาระหนี้สินไปแล้วกว่า 54,000 ราย และขอแจ้งให้ทราบว่า คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู ได้อนุมัติจัดสรรเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 วงเงินจำนวน 100 ล้านบาท เพื่อให้ข้าราชการครู (ผู้สอน) ที่มีความประสงค์กู้ยืมและมีคุณสมบัติครบถ้วนได้กู้ยืมรายละไม่เกิน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) กำหนดอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 ต่อปี ให้ผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือนรวม 96 งวด (8 ปี) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู พ.ศ. 2559 โดยข้าราชการครู (ผู้สอน) ที่จะได้รับพิจารณาอนุมัติให้กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียนจะต้องเป็นผู้มีหนี้สินที่ก่อไว้ก่อนวันยื่นคำขอกู้ เป็นหนี้ที่มีอยู่จริงบังคับได้ตามกฎหมาย ต้องเป็นหนี้กับธนาคาร สหกรณ์ออมทรัพย์ หรือสถาบันการเงินอื่น ยกเว้น บัตรเครดิต บัตรสินเชื่อเงินสด หนี้เอกชน เช่าซื้อ กยศ. สินเชื่อรถยนต์ หนี้ประกันชีวิต และต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1) เป็นข้าราชการครูที่ทำหน้าที่ผู้สอน ในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ  2) รับราชการมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี  3) มีเงินเดือนและเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิ หลังจากหักชำระหนี้เงินทุนหมุนเวียนแล้ว ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30  4) ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ และเป็นแบบอย่างที่ดี  5) ไม่เคยกู้ยืมเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูมาก่อน  6) ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และ 7) ไม่เป็นผู้ที่ถูกฟ้องร้องคดีล้มละลาย หรือมีคำสั่งศาลให้พิทักษ์ทรัพย์
          ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้มีหนังสือแจ้งส่วนราชการ / สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ประชาสัมพันธ์ และประกาศให้ข้าราชการครูที่มีความประสงค์กู้ยืมและมีคุณสมบัติครบถ้วนได้ทราบแล้ว โดยกำหนดให้ส่วนราชการ / สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่งรายชื่อผู้ได้รับการอนุมัติให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ภายในวันที่ 20 มกราคม 2560 ดังนั้น หากข้าราชการครูท่านใดมีความประสงค์จะกู้ยืมเงินทุนหมุนเวียน ขอให้รีบไปติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดได้ที่ส่วนราชการ / สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่ท่านสังกัดอยู่ และหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ค.ศ. www.otepc.go.th
          สำนักงาน ก.ค.ศ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเงินทุนหมุนเวียนจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ข้าราชการครูได้บ้างตามสมควรครับ


พินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.

  
เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์มติชน  ฉบับวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม 2559

 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา   

-คลากรการศึกษา  ที่ 
ติวสอบดอทคอม "

การเสริมสร้างขวัญกำลังใจของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในภาคใต้

สถานี ก.ค.ศ.
การเสริมสร้างขวัญกำลังใจของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในภาคใต้

        ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอจะนะ ถือว่าเป็นผู้ซึ่งต้องปฏิบัติงานด้วยความยากลำบาก เพราะต้องระมัดระวังตนเอง เสี่ยงต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตลอดเวลา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะพิเศษ เสี่ยงภัย มีปัญหาซับซ้อนและละเอียดอ่อน ซึ่ง ก.ค.ศ. มีความตระหนักถึงความเสียสละ และความยากลำบากในการปฏิบัติงานดังกล่าว จึงได้ตั้ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูแลการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่นี้เป็นการเฉพาะ เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรดังกล่าว

          ในระยะเวลาที่ผ่านมา อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้พิจารณาดำเนินการด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรในพื้นที่ดังกล่าวมากมายหลายประการที่สำคัญได้แก่ การให้ความช่วยเหลือเยียวยาทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอนุมัติให้บรรจุและแต่งตั้งทายาทของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ผู้มีคุณสมบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 และมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานตำแหน่งที่ ก.ค.ศ. กำหนด เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมจำนวน 52 ราย ได้แก่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 51 ราย ประกอบด้วยครูผู้ช่วย จำนวน 33 ราย และตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) จำนวน 17 ราย และที่อยู่ระหว่างการศึกษาในระดับปริญญาตรี จำนวน 1 ราย โดยอนุมัติเป็นหลักการให้เข้ารับการคัดเลือกเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย เมื่อมีคุณสมบัติตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานตำแหน่งนั้น รวมทั้งได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้บรรจุเข้ารับราชการสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) จำนวน 1 ราย

          นอกเหนือจากการอนุมัติให้มีการบรรจุและแต่งตั้งทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแล้ว ยังได้มีการกำหนดกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ไว้เป็นการเฉพาะด้วย นอกจากจะเป็นไปเพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรในพื้นที่ได้มีความก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ เพื่อที่บุคลากรเหล่านี้จะได้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็ง มีคุณภาพ ต่อไป

พินิจศักดิ์  สุวรรณรังค์

เลขาธิการ ก.ค.ศ.  

เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2559

 คลิ๊ก ) สมัครพัฒนาความรู้   
เตรียมติวสอบผู้บริหารสถาน+การศึกษา   

-คลากรการศึกษา  ที่ 
ติวสอบดอทคอม "

กฎ/ระเบียบ/เรื่องใหม่ จาก สพร.

ประกาศ / เรื่องใหม่ จาก สพป.และ สพม.ทั่วประเทศ